17th December 2018
พอได้ข่าวว่า เชฟ Maurizio Menconi ผู้เคยสร้างชื่อและความประทับใจให้กับผมและหลายคนจาก la Scala โรงแรมสุโขทัย กลับมาเปิดร้านอีกครั้ง แถมทำอาหารอิตาเลียนแนวใหม่ซึ่งคุณอาจไม่เคยได้พบพานที่ใดมาก่อนซะด้วย
ในช่วงที่เบรกตัวเองไปพบกับสิ่งใหม่ ผู้คนใหม่ และความท้าทายใหม่ๆ โดย เชฟ Maurizio ได้ทดลองทำ Pop up อาหารอิตาเลี่ยนแบบไม่มีเมนูแจ้งล่วงหน้า เขาค้นพบว่ามันเป็นทางที่ดีมากทั้งกับตัวเขาและลูกค้า เมื่อมีโอกาสมาทำร้านเต็มรูปแบบ เขาจึงไม่รีรอหยิบยกคอนเซ็ปต์นี้มาใช้ทันที และน่าจะเป็น Italian Omakase ร้านแรกๆ ซึ่งนอกจากจะนำประสบการณ์แปลกใหม่ให้คนกินได้เซอร์ไพรส์กับเมนูที่ไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว สำหรับเชฟยังจะทลายข้อจำกัดด้านเมนูอาหาร สู่อิสรภาพในการคิด หาวัตถุดิบ เทคนิคการปรุง การเรียงร้อยคอร์สเมนู รวมไปถึงการเซตราคาที่อยู่ในระดับพรีเมียม
ครั้งนี้เชฟปล่อยตัวเองออกนอกกรอบ เลือกใช้วัตถุดิบทั้งจากญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอีกหลายสิ่งระดับ The best จากอิตาลีมาปรุง อาหารเป็นอิตาเลี่ยนแนวโมเดิร์นหรูหรา มีลูกเล่นแพรวพราว twist ซุกซ่อนไว้ในแต่ละพาร์ทของอาหารล้อกับชื่อร้าน... ‘ไว้ลาย’
ตัวร้านขนาดกะทัดรัด แต่จัดวางได้ลงตัวซึ่งแม้พื้นที่จะเล็กแต่นั่งแล้วรู้สึกผ่อนคลายแกมหรูหรา Feminine นิดๆ ทุกโต๊ะสามารถมองเห็นวิวสังคมเมืองกรุงที่มีทั้งสวน รถไฟฟ้า และผู้คนสัญจรไปมา อีกฟากยังมองเห็นเชฟและทีมครัวทำงานในครัวเปิดที่ดูดีมีคลาสมากๆ สเตชั่นและอุปกรณ์ครัวทุกอย่างดูจัดวางอย่างมืออาชีพเหมือนโชว์รูมมีชีวิต ฝั่งตรงข้ามเป็นบาร์ทรงรีมีสไตล์อีกนั่นแหละ อ้อ! คุณ Jeremy GAUBERT. ที่เคยเป็นผู้จัดการร้าน L'Atelier de Joel Robuchon ก็มาดูแลร้านนี้ด้วยนะ
ค่ำนี้ RAW ได้รับคำชวนเป็นสื่อแรกที่มารีวิวแบบจัดเต็ม ซึ่งร้านเพิ่งเปิดมาแค่ 3 วีค เฉพาะมื้อดินเนอร์ ราคา 5,000++ กับ full set menu ร่วม 22 คอร์ส เชฟบอกว่าลงเฉพาะบางส่วนก็พอนะ เก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์บ้าง... จัดไปครับ
Barley chips – cod fish mantecato – osetra caviar
ข้าวเกรียบ ทำจากข้าวบาเล่ย์ อบแห้งบางเฉียบกรอบฟู มูสปลากับพาร์เมซานชีส ท้อปด้วยไข่ปลาสเตอร์เจียน ทุกอย่างเข้ากันดีมาก ทั้งเท็กเชอร์และรสชาติที่เฟรชและออกหวานนัวๆ แต่สดชื่น
Potato stones – truffle mayo
หน้าตาสะสวยเดิร์นมาเลย มันฝรั่งจากฝรั่งเศสที่ค่อยๆ โตในหน้าหนาว หัวเล็กน่ารัก แต่รสโตเทสตี้ดีมาก เนื้อเนียนเบาไม่แน่นหนัก เชฟเพียงแค่นำมาต้ม จบด้วยอบแห้งแป๊ปนึง เปลือกรัดตัวเคี้ยวแล้วรู้สึกครัชชี่เล็กๆ ชอบมากจานนี้
Foie gras gold log – 25 years balsamic
เนยกับขนมปัง เนยทรงทองแท่งเป็นฟัวกราส์เทอรีน ผสมด้วยบัลซามิกอายุ 25 ปี แต้มด้วยทองคำเปลวแวววาวสวยหรูดูดี มากกว่านั้นคือรสชาติที่ละเมียดเนียนอยู่ในปากโดยเฉพาะเมื่อกินพร้อมขนมปังกลิ่นหอมสดชื่นจากส้มยูซุที่ผสมอยู่ เรียบง่ายแต่ยอดเยี่ยมจริงๆ
Sea urchin – potato – extra virgin olive oil – coffee dust
ไข่หอยเม่น พาเมซานเอสพูม่า ผงกาแฟ เข้มข้น เนียนมัน ตัวผงกาแฟเบรคได้น่าสนใจดี
Edible sea shell – honbinosu clam tartare
หอยกาบจากนางาซากิ ปรุงสุกเล็กน้อย หอยเชลล์จากฮอกไกโดสดๆ หั่นชิ้นเล็ก อยู่ในโคนแป้งบางกรอบ จานนี้กลิ่นรสทะเลมาเต็ม ดีงามสมเป็น signature dish
Citrus marinated hamahci loin – tomato – capper – shallot – red pepper sorbet
ปลาฮามาจิหมัก เลมอน 3 ชม เชอร์เบทพริกหวานสีส้มสดนี่คือทีเด็ด อร่อยชื่นใจมาก
Awabi abalone – somked chorizo – leek
เนื้อหอยแน่นตึงหั่นมาเป็นเส้นปรุงสุกหวานเด้ง กลิ่นควันฟุ้ง มีไส้กรอกอิตาเลี่ยนแกล้มมาด้วย รสทะเลเค็มเข้ม ต้องกระดกไวน์ช่วย
Panna cotta – mango & passion fruit
หมายมั่นเป็นเมนูเซอร์ไพรส์ ซึ่งก็ทำได้ดี ขนมรูปทรงไข่ ผ่ากลางออกมาเจอไข่แดงสีเหลืองสดรสหวานซ่อนเปรี้ยวจากมะม่วงและเสาวรส เนื้อครีมไม่ได้เนียนนุ่มอย่างที่คาด ไอเดียดีแต่รสชาติเฉยๆ
สรุป เป็นอิตาเลี่ยนที่น่าไปลิ้มลอง โดยเฉพาะคนชอบอาหารฝรั่ง ครั้งนี้ถือว่าเชฟจัดเต็มงัดวิชาออกมาทุกหน่วยกิต จะดีงามมากถ้าจัดคู่ไวน์แพริ่งที่มีให้เลือกตั้ง 4 ราคา ฉลองปีใหม่กับประสบการณ์ใหม่... ร้านนี้แนะนำครับ.