Baan Nual อาหารไทยใต้ถุนบ้านตำรับมหาชัย

18.09.19

เป็นอีกร้านอาหารไทยที่โด่งดังมาแรงแซงรุ่นพี่ไปหลายโค้งเลยทีเดียว ฟู้ดดี้เกือบทั้งวงการน่าจะเคยผ่านร้านนี้มาแล้ว ร้านนี้ยังดังในหมู่นักกินชาวไต้หวันอีกด้วย ถึงขนาดจองคิวร้านล่วงหน้าได้คิวแล้วค่อยบินมากิน และนี่คือกิตติศัพท์ของร้านที่ทุกคนต้องฝ่าด่านคือคิวจองที่ยาวข้ามเดือน ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึง ‘บ้านนวล’ นั่นเองงงงงงง

RAW ก็สายรอครับ ชิวๆ รอเขากินกันไปสักพัก เราก็ค่อยตามมาพิสูจน์ โดยก็ต้องทำตามกฎกติกาที่เจ้าของร้านตั้งไว้คือ รับจองคิวผ่าน ig ร้านเท่านั้น ร้านเปิดวันพุธถึงอาทิตย์ มีหยุดพักร่างบ้าง ปกติเปิดวันละ 3 รอบ กลางวัน 1 เย็น 2 ร้านมี 3-4 โต๊ะ รวมแล้วรับได้ไม่เกิน 15 คน ทางร้านจะประกาศวันเปิดจองคิวล่วงหน้า คนที่ได้มากินแรกๆ ก็จองได้ข้ามวัน ข้ามอาทิตย์ แต่ตอนนี้เรียกว่าข้ามปีแล้ว เพราะล่าสุดจนถึงสิ้นปีนี้คิวเต็มแล้วจ้า

และหลังจาก RAW จองคิวไปล่วงหน้า 3 เดือน วันที่เรารอคอยก็มาถึง ดีเดย์มื้อกลางวัน วันพุธที่ 18 กันยายน โดยทางร้านจะส่งเมนูมาให้เลือกล่วงหน้า ตอนได้รายการอาหารมาเลือก ไอ้เราคิดว่าน่าจะมีไม่กี่อย่าง เพราะเห็นว่ามีแม่ครัวแค่คนเดียว ที่ไหนได้หลายสิบรายการจนเลือกไม่ถูก คิดแล้วคิดอีก ส่องดู ig วนไปมา แล้วไปกันแค่ 4 คน สรุปสั่งไป 8 อย่างละกัน ไว้เผื่อคราวหน้าค่อยไปลองเพิ่ม 

อาหารบางรายการจะสั่งได้เฉพาะมื้อเย็นอย่างเดียว เนื่องจากต้องใช้เวลาหมัก อาหารที่เสิร์ฟมาหน้าตาเหมือนใน ig ของร้านเป๊ะๆ ซึ่งทุกเมนูที่ลงใน ig เค้าบอกสูตรวิธีทำด้วยนะเออ ใจกว้างอย่างแรง 

วันที่จะไปกิน เราเตรียมพร้อมด้วยการอดข้าวเช้าไปเลย ขับรถไปจอดที่โรงแรมนูโว(เสียค่าจอดนะ) เดินลัดเลาะผ่านชุมชนไปเรื่อยๆ บรรยากาศไม่น่าดูชมเท่าไหร่นัก ยิ่งกลิ่นคลองนี่ทำเอามึนหัวเลย ย่านนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว backpack อย่างมาก บ้านเก่าย่านเก๋าที่ความทรุดโทรมดูดซับประวัติศาสตร์ของเมืองกรุงไว้อย่างยาวนานแบบนี้มีเสน่ห์ต่อนักผจญชีวิตนักแล 

มื้อนี้เราไปพร้อม คุณหมี แห่งเพจถนัดหมี และนักเขียน The Cloud ซึ่งมาเยือนร้านนี้หลายครั้งแล้วทั้งในฐานะนักเขียน นักชิม และเพื่อนร่วมมหาลัยกับเจ้าของร้าน จึงไม่มีหลง เดินสักพักผู้นำทางก็หยุดอยู่หน้าบ้านหลังนึง ไม่มีป้ายชื่อร้านใดๆ แต่จำแคร่ไม้ไผ่ที่ใช้ตากจานชามแก้วเรียงรายได้จากรูปตามสื่อต่างๆ ไม่ผิดครับเรามาถึงแล้ว บ้านนวล 

ร้านขนาดเล็กกะทัดรัด ตัวร้านคือใต้ถุนบ้านเก่า ครัวอยู่ด้านในกินพื้นที่ครึ่งนึง มีคุณยุ-ยุวรัตน์ สาครสินธุ์ แม่ครัวครอบครองอยู่ อีกครึ่งเป็นที่ทานข้าว มีคุณทอม-สิทธิศักดิ์ สาครสินธุ์ ยืนคุมเชิงอยู่ตลอด สองคนเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ได้เรียนรู้เรื่องอาหารการกินมาพร้อมๆ กันตั้งแต่ยังเด็ก เคยต่างคนต่างทำงานตามสายอาชีพ จนมาร่วมกันเปิดร้านขายอาหารออนไลน์ ร้านข้าวแกง ท้ายสุดได้มาเปิดร้านที่มาหน้าร้านจริงๆ เจอลูกค้าจริงๆ แล้วใช้ชื่อร้านที่ตั้งใจแต่แรกว่า ‘บ้านนวล’

บ้านเก่ามีมนต์ขลังในย่านอดีตของไทยแบบนี้ทั้งสองตั้งใจสืบเสาะค้นหาจนได้มาเปิดร้านสมใจ และในฐานะ Art director คุณทอม ได้ออกแบบร้านด้วยตัวเอง โดยเก็บความดั้งเดิมของบ้านไว้ ทั้งศาลพระภูมิ เตาอั้งโล่โบราณหน้าบ้าน(เจ้าของบ้านเคยเปิดร้านขายข้าวแกงจริงๆ) ข้าวของบางชิ้น รวมถึง ป้าย ‘สง่างามเฟอร์นิเจอร์’ อันใหญ่ยักษ์ ซึ่งเป็นป้ายร้านของจริงที่เจ้าของบ้านเคยเปิดอยู่พระประแดง พอเลิกก็เอามาเก็บไว้ในบ้าน คุณทอมเห็นเข้าก็รีบนำมาประดับร้าน ได้ทั้งสไตล์และความหมายมงคล

ดีไซน์และสไตล์ร้านดูอาร์ตๆ สลัวๆ มีความคอนทราสให้สะดุดบ้างในของตกแต่งที่อัดแน่นและดอกไม้สดสุดอลังการ ทำให้ลืมกลิ่นอับ ความร้อนอบอ้าว และความอึดอัดในบรรยากาศบ้านเก่าได้บ้าง  

โต๊ะกินข้าว ภาชนะทุกอย่าง ใช้ของอย่างธรรมดา แต่มีแอบเห็นพร็อพพิเศษบ้างในบางครั้ง เห็นร้านผ่านภาพพอมาเจอของจริง ต้องยอมรับว่าเป็นร้านที่ขึ้นกล้องมากถ่ายภาพออกมาแล้วดูดีมีสไตล์ที่น่าสนใจจริงๆ 

ส่วนชื่อร้าน ‘นวล’ ก็เป็นคำที่เจ้าของคิดอยากได้ชื่อนี้ ด้วยเป็นคำไทยแท้สื่อความหมายได้พลิกแพลง ถ้าเป็นผู้ผู้หญิงก็คงสวยมีเสน่ห์ชวนหลง ถ้าเป็นอาหารรสชาติคงนัวชวนกิน ประมาณนั้น

แล้วก็อย่างที่หลายคนรู้กัน บ้านนวลขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทยพื้นบ้าน รสชาติกลางๆ(เจ้าของออกตัวไว้แล้วว่าอาจไม่เหมาะสำหรับคนชอบรสจัด) เกือบทั้งหมดเป็นอาหารที่เจ้าของทำกินเองในบ้าน สูตรถ่ายทอดมาจากยายจากแม่รวมกับที่ได้รู้ได้เห็นเองด้วย ออกมาเป็นอาหารที่ไม่ต้องตีความ แต่เน้นวัตถุดิบอย่างดี สดใหม่ เพราะเจ้าของจ่ายตลาดเองทุกเช้าที่ตลาดสดเจ้าประจำ เน้นของสดตามฤดูกาล โดยเฉพาะซีฟู้ดที่ทั้งสองคนถนัดมาก ของบางอย่างก็สั่งมาจากแหล่งเฉพาะที่ว่าดีเด็ดจริง เช่นน้ำปลาจากตราด กะปิจากชุมพร เรียกว่าของแต่สิ่งแต่ละอย่างทางเจ้าของร้านบรรจงคัดสรรและปรุงเหมือนกับที่ทำกินเอง ดังนั้น ราคาอาหารถูกแพงจึงแล้วแต่ประสบการณ์และแนวคิดของลูกค้าแต่ละคน แต่ก็อย่าลืมว่ามันก็สะท้อนไปถึงเบื้องหลังที่เราอาจมองข้ามไปด้วย 

ส่วนคนที่ถามหาของหวาน ให้มองหน้าเจ้าของร้านที่เหมือนอยากจะบอกว่ากูทำแค่นี้ก็เหนื่อยพอแล้วมั้ย 555 แต่ถามว่าทำได้มั้ย ทำได้ทำเป็น แต่กลัวว่าลูกค้าจะกินเพลินเลยเวลารอบถัดไป จึงแนะนำไปกินขนมเจ้าดังเก่าแก่ในย่านนี้ก็มีร้านเด็ดอยู่มากมาย 

ข่าวดี!! ปีหน้าคุณทอมบอกว่าจะเริ่มรีโนเวทบ้านชั้นบน เพื่อเปิดเป็นห้องทานข้าวเพิ่มอีกห้อง ตามคำเรียกร้องแกมบ่นของลูกค้า รวมถึงเพิ่มลูกมือมาช่วย ซึ่งก็คงพอขยับคิวให้สั้นลงบ้าง แต่ถึงอย่างไรถ้าคุณอยากมากินร้านนี้ ก็ยังต้องไปเฝ้า ig:baannual372 กันยาวๆต่อไป 

ข่าวดีอีกเรื่อง สำหรับแฟนบ้านนวล ปีหน้ารอจับจอง Cook book สูตรอาหารของบ้านนวลในรูปแบบที่เป็นตัวตนของบ้านนวล ซึ่งคุณทอมทุ่มเทงัดวิชาอาร์ตๆออกมาอย่างเต็มที่ ตั้งเป้าว่าจะส่งเข้าประกวดระดับโลกเลยทีเดียว

ปูจ๋า 4 ชิ้น 350 บาท

รากผักชี กระเทียม พริกไทยดำ โขลกจนละเอียด ผสมกับเนื้อหมูสับติดมัน ปรุงรส แล้วใส่ไข่ไก่เพิ่มความนุ่ม คลุกผสมจนเนื้อเนียนเข้ากัน ใส่เนื้อปูนึ่งพร้อมต้นหอมซอย แล้วนำไปนึ่ง 20 นาที ตอนเสิร์ฟก็ค่อยชุบไข่แล้วทอด จัดวางบนกระดองปู จานนี้ผ่านสบายๆ เนื้อแน่นหอม เนื้อปูเต็มคำ รสกลมกล่อม

หมูย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว 250 บาท 

เมนูนี้ที่จริงต้องสั่งเฉพาะมื้อเย็น เพราะต้องใช้เวลาหมักหมู แต่มื้อนี้ใช้เส้นพี่หมีเลยได้กิน 555 ก่อนหมักเค้าจิ้มเนื้อหมูก่อนเพื่อให้เครื่องหมักเข้าเนื้อ จากนั้นนำรากผักชี กระเทียม พริกไทยดำมาผสม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว คลุกกับเนื้อหมู หมักทิ้งไว้ เวลาย่างออกมากลิ่นหอมชวนทานมาก เนื้อหมูนุ่มเด้ง เสิร์ฟมาพร้อมผักชีโรยใช้แนมได้ น้ำจิ้มแจ่วมะขาม หอมแดง ข้าวคั่ว ปรุงรสหวานนำแบบโดดเลย หรืออาจเป็นเพราะเราติดรสจัดแบบอีสานก็เป็นได้

เนื้อปูผัดพริกเหลือง 400 บาท

เนื้อปูก้อนอย่างใหญ่สีขาวเด่นเว่อร์ แม่ครัวเริ่มจากเจียวกระเทียมกับน้ำมันพอหอมก่อน แล้วใส่ถั่วฝักยาว พริกเหลือง ผัดพร้อมปรุงรส แล้วค่อยใส่เนื้อปูม้านึ่งคงคลุกเคล้า ตบด้วยใบมะกรูดฉีก จานนี้เห็นรูปแล้วคิดไปเองว่าต้องเผ็ดจัดจ้านแน่ๆ ดังนั้น พอได้ชิมแล้วเลยรู้สึกว่ารสอ่อนกว่าคาดเยอะ แต่เนื้อปูนี่ต้องให้คะแนนเค้าเลย

น้ำพริกไข่ปู 250 บาท

สูตรที่นี่เค้าจะทำเป็นน้ำยำแยกต่างหากไว้ก่อน ใช้น้ำปลาน้ำมะนาวสดผสมกับน้ำตาลมะพร้าวจนเข้ากันดี พอจะปรุงต่อถ้วย ก็ตำพริกกระเทียมกับไข่ปูนึ่งพอแหลกค่อยเติมน้ำยำคลุกให้เข้ากัน รสชาติกลางๆ กลมกล่อมครบ 3 รส กินง่าย เสิร์ฟพร้อมผักแนมแบบบ้านๆ แต่กินกับขมิ้นขาวชูรสเสริมกันดีมาก  

ก้านคะน้าผัดปลาเค็ม 200 บาท

เลือกจานนี้เพื่อไว้แก้กับข้าวจานอื่น แล้วก็คิดถูกจริงๆ เป็นเมนูที่ช่วยประสานกับข้าวตัวอื่นได้ดีมาก แล้วก็อร่อยมากด้วย ก้านคะน้าปอกเปลือกแล้วหั่นเฉียงแช่น้ำเย็นพักไว้ ปลาอินทรีย์เค็มเอาไปทอดก่อนแล้วบี้เป็นชิ้นพอแหลก ตั้งกระทะเจียวกระเทียม ใส่ก้านคะน้ำผัดสักพัก ค่อยใส่เนื้อปลาเค็ม ปรุงรสแค่น้ำมันหอย ตัดน้ำตาลทรายนิดหน่อย เติมน้ำนิดนึง จบด้วยกระเทียมอีกรอบ คลุกให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ 

กุ้งผัดมันกุ้ง 300 บาท

เมนูซิกเนเจอร์ของบ้านนวล ที่เจ้าของกินมาตั้งแต่ยังเด็กสมัยมาเยี่ยมยายที่มหาชัย ใช้กุ้งสดผ่าหลังเก็บเปลือกไว้ด้วยเพื่อกันเนื้อกระด้าง นำมาผัดกับมันกุ้งและกระเทียมไทยให้มีรสจัด กุ้งสดกรอบเด้งได้มาตรฐาน มันกุ้งอย่างเยอะเยิ้มย้อยยั่วชะมัด คลุกกับข้าวกินพร้อมกระเทียมก็ฟินไป แต่กินหลายคำจะเลี่ยน ต้องตัดสลับด้วยน้ำพริกไข่ปู หรือคะน้าปลาเค็ม 

แกงปลาดุกใบยี่หร่า 200 บาท

ใช้ปลาดุกนาธรรมชาติ ตัวเลยไม่ใหญ่ เนื้อหวาน เคี่ยวกะทิ ใส่พริกแกงเผ็ดใต้ เติมน้ำนิดหน่อย ปรุงรสแล้วใส่ใบยี่หร่าเพิ่มความเผ็ดร้อน จานนี้รสแรงสุดในบรรดากับข้าว 8 อย่างที่สั่งไป น้ำแกงเข้มข้นรสหนักจัดจ้าน เห็นแล้วอยากกินกับขนมจีน

เนื้อเค็มต้มกะทิ 350 บาท

เนื้อแดดเดียวย่างแล้วทุบ หั่นตามขวางแล้วเคี่ยวกับกะทิ ตัดรสด้วยน้ำตาลมะพร้าวหน่อย หอมแดงซอย ใบมะกรูดฉีก เคี่ยวจนงวด โรยด้วยใบมะกรูดกับพริกขี้หนูสวนก่อนตักเสิร์ฟ รสน้ำแกงออกหวานมัน อยากได้รสเผ็ดกินพริกขี้หนูสวนตามได้ ส่วนเนื้อแดดเดียวไม่ได้เปื่อยนุ่มต้องออกแรงเคี้ยวพอประมาณ