5 RAW Best Restaurant

5 RAW Best Restaurant 

การเข้ามาของ 50 Best of Restaurant ตามมาด้วย Michelin ได้กระทุ้งให้ร้านอาหารในบ้านเราตื่นตัว สื่อก็ตื่นตูม คนกินก็ตื่นเต้น ท่ามกลางดงร้านรุ่นเก๋าและร้านนิวเจนคอนเซ็ปต์เจ๋งๆ ที่มีให้เลือกจนตาลาย แต่จะมีสักกี่ร้านที่คู่ควรแก่การใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในมื้อค่ำล่ะ งานนี้ RAW ก็ทำตัวเป็นกูรู กูรู้ จัดลิสต์เล็กๆ แบบกระชับ 5 ร้านที่ดีที่สุดในแต่ละ category ไว้ให้คุณเลือกไปเสียเงิน 5 ร้านใช้เวลา 1-2 เดือนก็น่าจะเก็บได้หมด ประเดิมลิสต์แรก ขอเป็น ‘5 RAW Best Restaurant’ 5 ร้านดิบ ดาร์ค เท่ๆในแบบ RAW 

Eat Me

เปิดมาใกล้จะทศวรรษแล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าหนาแน่นให้ร้านอื่นอิจฉา ด้วยการสนับสนุนของแฟนๆที่ล้วนเป็นฟู้ดดี้ และด้วยเครดิตติดลิสต์ 50 ร้านดีที่สุดในเอเชียมาตลอดก็ยังคงใช้เป็นร้านรับรองแขกได้ไม่อายใคร เชฟ Tim Butler ยังคงคุมบังเหียนงานครัวเหมือนเคย เมนูของร้านออกแนวฝรั่งเป็น Comfort food ที่โคตรหรู ด้วยวัตถุดิบที่โครตจะดี ที่ต้องสดก็สดจริง ที่ต้องใหญ่ก็ใหญ่จริง เนื้อโทมาฮ็อกของ Eat Me คือตำนานของเมืองไทยไปแล้ว ใครที่ไม่เคยกินแล้วมาเปิดบริสุทธิ์ที่นี่ ต่อไปใช้ชีวิตลำบากเลยนะ เพราะเจอของดีตั้งแต่แรก เมนูอื่นยัมมี่ทุกจาน ถูกที่ถูกทางไปหมด ซึ่งกรรมวิธีการครัวของเชฟก็ผสมเทคนิคสมัยใหม่และดั้งเดิม เพื่อดึงสิ่งที่ดีที่สุดตามธรรมชาติของวัตถุดิบนั้นๆ ออกมาอย่างที่เชฟคนอื่นก็ทำเมนูเดียวกัน แต่ออกมาห่างชั้นกันเลย ดังนั้นเรื่องราคาก็ต้องให้เค้านะ สมกับที่ได้มา อ้อ! อาหารหลายเมนูมีกลิ่นรสไทยแบบจัดเต็มด้วยน่าภูมิใจที่เชฟคนดังสนใจทำอาหารไทยกันเยอะ แถมทำได้ดีกินได้ทั้งไทยและต่างชาติ น่าชื่นชม

Meatlicious

ถือเป็นร้านแรกๆ ในไทยที่ริเริ่มคอนเซ็ปท์ Burnt food เน้นใช้เตาย่างถ่านปรุงอาหารแบบดึกดำบรรพ์ ซึ่งไม่กี่ปีมานี้ถือว่าเป็นเทรนด์อาหารที่กำลังมาในหลายเมืองใหญ่ เชฟชื่อดังต่างก็หันมาทำอาหารแนวนี้หลายคน สำหรับ Meatlicious ที่เปิดตัวด้วยคอนเซ็ปต์ Burnt Beer Burb ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าของร้านเน้นแนวสนุกสนานเข้ากับสังคมบ้านเราเป็นอย่างดี ร้านนี้นอกจากเนื้อโทมาฮ็อกที่ย่างบนเตาถ่านด้วยฝีมือเชฟมืออาชีพ จนทำให้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ฮิตระเบิดของร้านแล้ว อาหารอื่นที่ปรุงด้วยเตาถ่านทั้งหมดก็ยังมีความหลากหลายลุ่มลึกทั้งแนวคิด รสชาติ วัตถุดิบ เมนูมีทั้งที่คุ้นเคยและแปลกลิ้น หากไปเป็นกลุ่มจะสนุกมากกับการผลัดกันจกอาหารหลายจานบนโต๊ะ กินเพลินงบบานไม่รู้ตัว แรกๆ ร้านไม่มีไวน์มีแต่เบียร์นำเข้าที่อร่อยหลายตัวเลย แต่เมนูเนื้อย่างยังไงก็ต้องใช้ไวน์แดง เจ้าของร้านก็ไม่ขัดใจมีไวน์ดีๆรสอร่อยให้เลือกหลายตัว ถือว่าเป็นร้านที่ครบเครื่อง พาใครไปไม่มีผิดหวัง สมกับศักดิ์ศรีเจ้าของร้านที่เป็นเชฟสุดยอดเอเชียติดต่อกัน 4 ปีซ้อน

80/20

ภาพโดย 80/20 bkk

เป็นร้านที่เราอยากแนะนำหากคุณถามว่าอาหารไทยในบ้านเราไปถึงไหนกันแล้ว มาดูมาชิมมาฟังเชฟเจ้าของ เชฟโจ ณพล จันทรเกตุ หนุ่มหน้าตี๋เคราสวยคนนี้ขี่ดวงมาทำร้านจริงๆ ทำอะไรออกมาก็ดูน่าสนใจไปเสียหมด อาหารของร้านถอดรหัสตามชื่อเลยคือ เน้นใช้ของในประเทศ 80 ส่วน ที่เหลือขอนำเข้ามาบ้าง แนวอาหารขอเรียกว่า Thai modern fusion แก่นคืออาหารไทยที่ค้นคว้ามาจากรากเหง้าแต่ละพื้นถิ่นของไทย ผ่านการทำการบ้านเชิงรีเสิร์ชแบบลงพื้นที่จริง ก่อนจะผ่านสมองของเชฟที่จะสอดผสานกับเทคนิคการครัวทั้งแบบดั้งเดิมทั้งของไทยและฝรั่ง ผลงานออกมาเทียบชั้นอาหารฝรั่งเศสระดับ Gastro ได้สบาย แถมสตอรี่นี่สดใหม่มาก ตั้งแต่ที่มาของวัตถุดิบแต่ละตัว ส่วนผสมแต่ละอย่าง วิธีการปรุง การเตรียมที่หลายตัวผ่านการหมัก ดอง เจียว เคี่ยว คั่ว อบ ตาก ย่าง ตุ๋น งานเยอะ แบบขายมื้อค่ำนั่งทำแต่หัวรุ่งงี้ แถมขยันจัดอีเว้นท์หนักมาก แต่ก็ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักกว้างขึ้นด้วย เท่าที่ไปชิมหลายรอบหลายตัว ชอบ สดใหม่ไม่ซ้ำ อร่อยแบบรสสากลกลมกล่อมแต่แยกร่างได้ว่าอะไรคืออะไร แต่บางตัวก็เข้าไม่ถึงนะ รู้สึกหลุดหล่นลึกเกินไป รสแปลกเข้าใจยากก็มี แต่โดยรวมสนุกมาก

Arno’s Butchery and Eatery

ถ้าเน้นเฉพาะสเต็ก ร้านนี้ถือว่าเด็ดสุดยอด โดยเฉพาะยุคแรกที่เริ่มเปิดร้านสาขาแรกที่ถนนนราธิวาสฯ นะ เพราะ ป๋าอาโนลด์ คัดสรรเนื้อระดับประเทศเอามาบ่มเองตามสูตรของแก บางตัวบ่มถึง 72 วัน ซึ่งหาทานแทบไม่ได้ เนื้อที่ผ่านการย่างด้วยเตาถ่านแบบบ้านๆ นี่แหละ แต่ได้ผลลัพธ์ที่สุดยอดจริงๆ กลิ่นรสเนื้อออกมาเข้มเต็มปากเต็มฟัน เห็นเนื้อชิ้นใหญ่ๆ แต่ก็หมดได้ไม่ยาก ร้านยังมีเมนูทางเลือกทั้งอาหารทะเลนำเข้า เบอร์เกอร์ สลัด ขนมให้ครบคอร์ส และด้วยบรรยากาศร้านแบบโฮมมี่เล็กๆ ทำให้รู้สึกอร่อยเป็นพิเศษ และราคาไม่แพง แต่ถ้าจะทานเนื้อดีจริงๆ ก็ควรมีงบหลักพันต่อหัว มีไวน์ขายทั้งแบบแก้วและขวดราคาไม่แรง ดื่มกับเนื้อดีๆ นี่ไม่มีคำบรรยาย ส่วนร้านที่ขยายเพิ่มมาอีกหลายสาขาตอนนี้ มีหลายแสียงบ่นมาถึงหูเจ้าของ ป๋าก็คงรู้ทางปีนี้เลยมีโปรเจ็กท์จะปรับเปลี่ยนให้ทุกสาขาย่างด้วยเตาถ่าน ก็คงจะช่วยเรียกศรัทธาของแฟนๆ ได้อีกครั้ง

Appia

ภาพโดย appia

นี่คือร้านที่เปิดประสบการณ์อาหารอิตาเลี่ยน-โรมันเทรนด์ใหม่ให้กับคนไทยได้รู้ว่า เฮ้ย! อิตาเลี่ยนแบบโฮมมี่มันช่างอบอวลไปด้วยความสดใหม่หอมกรุ่นอบอุ่นจริงใจแบบนี้นี่เอง เชฟ Paolo Vitaletti ทำงานเป็นเชฟในโรงแรมมาหลายปี แต่มา Top form ก็ตอนมาทำร้านเองนี่แหละ เปิดร้านมาร่วม 6 ปีก็ยังต้องจองคิวอยู่ แกใช้คอนเซ็ปต์ทำอาหารอิตาเลี่ยนแบบบ้านๆ ที่กินตอนเด็กๆ เป็นอาหารที่พ่อเลือกสรรวัตถุดิบแล้วมาให้แม่ทำ เมนูจึงเป็นแบบบ้านๆ ที่คนอิตาลี่กินกันจริงๆ กินกันได้ทั้งบ้าน กินกันตามฤดูกาล แต่ๆๆๆ มันก็ต้องบวกกับฝีมือ เทคนิค และความคิดสร้างสรรค์ของเชฟที่ใส่เข้าไปอย่างไม่ยั้ง อาหารจึงออกมาผสานทั้งความเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา วัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้ามาจากอิตาลี่แม้แต่ ไข่ไก่และผักสด ซึ่งหลายคนอาจไม่เห็นด้วย แต่มันก็เป็นความตั้งใจของเชฟเค้านะ ส่วนใครจะเข้าถึงแค่ไหนก็เป็นเรื่องของคนกินเช่นกัน อาหารจานเด่นคือพาสต้าทำสด สนุก และจริงจัง โดนบ้างไม่โดนบ้างแล้วแต่รสลิ้น แต่แนะนำว่าอาหารหมวด Antipasti เด็ดทุกตัว